วันงดสูบบุหรี่โลกประจำปี 2556 ในวันที่ 31 พฤษภาคม นี้กำหนดประเด็นรณรงค์ว่า " ไม่ใช้ ไม่รับ ไม่สนับสนุนโฆษณายาสูบร้าย ทำลายชีวิต" และตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2556 เป็นต้นไป ซองบุหรี่ทุกชนิดที่จำหน่ายในประเทศไทย จะต้องเพิ่มพื้นที่ติดภาพคำเตือนเป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 บนซองบุหรี่ทั้ง 2 ข้าง
จากสถิติของสำนักควบคุมการบริโภคยาสูบ กรมควบคุมโรค พบว่าคนไทยที่สูบบุหรี่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มีผู้สูบบุหรี่ทุกชนิดรวม 13 ล้านคน อัตราการสูบบุหรี่ของผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 20 เท่า มีนักสูบหน้าใหม่เกิดขึ้นราว 2-3 แสนคนต่อปี และคนไทยเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ปีละประมาณ 52,000 คน เฉลี่ยวันละ 142 คน ชั่วโมงละ 6 คน โดยสูบบุหรี่จากโรงงานอย่างเดียวมากที่สุด 5.1 ล้านคน รองลงมาคือบุหรี่มวนเอง 4.7 ล้านคน ผู้ที่อยู่นอกเขตเทศบาลมากกว่าในเขต 1.4 เท่า ที่น่าเป็นห่วงคือผลสำรวจยังพบว่ามีคนไทยที่สูดควันบุหรี่มือสองในตลาดสดหรือตลาดนัดมากที่สุดร้อยละ 68.8 ในบ้านร้อยละ 36 และที่ทำงานร้อยละ 30.5
รายงานผลการศึกษาการสูบบุหรี่กับสุขภาพหัวใจ ในกลุ่มตัวอย่าง 3,000 กว่าคน พบว่าผู้ที่เลิกสูบบุหรี่มาไม่ต่ำกว่า 4 ปี จะลดความเสี่ยงกับโรคหัวใจและหลอดเลือดลงได้ร้อยละ 54 ในแต่ละปีคนไทยเลิกสูบบุหรี่ได้มากกว่า 200,000 คน หรือเฉลี่ยวันละ 600 คน จากการสำรวจพฤติกรรมของผู้ชายที่เลิกสูบบุหรี่ พบว่า สาเหตุที่ทำให้เลิกสูบมากที่สุดเพราะพบว่าไม่ดี เลยตัดสินใจเลิกเอง ร้อยละ 34.2 รองลงมา คือป่วยหรือเป็นโรค แล้วแพทย์แนะนำให้งดสูบบุหรี่ ร้อยละ 28.2 และสามี ภรรยา ลูก ขอร้อง ร้อยละ 14.8 ตามลำดับ ในขณะที่ผู้หญิงเลิกสูบบุหรี่เพราะพบว่าไม่ดีเลยตัดสินใจเลิกเองมากที่สุด ร้อยละ 37.3
ในแต่ละปีคนไทยเลิกสูบบุหรี่ได้มากกว่า 200,000 คน หรือเฉลี่ยวันละ 600 คน จากการสำรวจพฤติกรรมของผู้ชายที่เลิกสูบบุหรี่ พบว่า สาเหตุที่ทำให้เลิกสูบมากที่สุดเพราะพบว่าไม่ดี เลยตัดสินใจเลิกเอง ร้อยละ 34.2 รองลงมา คือป่วยหรือเป็นโรค แล้วแพทย์แนะนำให้งดสูบบุหรี่ ร้อยละ 28.2 และสามี ภรรยา ลูก ขอร้อง ร้อยละ 14.8 ตามลำดับ ในขณะที่ผู้หญิงเลิกสูบบุหรี่เพราะพบว่าไม่ดีเลยตัดสินใจเลิกเองมากที่สุด ร้อยละ 37.3
เภสัชกรเชิดเกียรติ กล่าวต่อว่า เทคนิคการเลิกบุหรี่นั้นขอผู้สูบอย่าคิดเรื่องการสูบบุหรี่ แต่ให้เปลี่ยนอิริยาบถไปทำอย่างอื่นเสีย เช่น ฟังเพลง ไปเดินเล่น หรือไปหาเพื่อนฝูง มีรายงานการวิจัยแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่เลิกสูบบุหรี่จะไม่สามารถต้านทานความอยากสูบบุหรี่ได้ เมื่อดื่มเหล้าและสิ่งเสพย์ติดอื่น ๆ เพราะทำให้มีความอดทนต่อความอยากสูบบุหรี่ได้น้อยลง ดังนั้นขอให้หลีกเลี่ยงเหล้าและสิ่งเสพย์สัก 2 - 3 สัปดาห์ และร้อยละ 80 ของผู้ที่เลิกสูบบุหรี่จะเลิกได้ด้วยตัวเองได้สำเร็จส่วนใหญ่ใช้วิธีไม่สูบบุหรี่เลย (หักดิบ) แต่ผู้ที่เลิกสูบบุหรี่โดยใช้วิธีค่อยๆลดจำนวนมวนที่สูบลงส่วนใหญ่จะไม่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ ดังนั้นผู้ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่สามารถขอรับคำปรึกษาในการเลิกสูบบุหรี่ทางโทรศัพท์ได้ ที่เบอร์โทร.1600
ข้อความหลัก “ ไม่ใช้ ไม่รับ ไม่สนับสนุนโฆษณายาสูบร้าย ทำลายชีวิต จุดบุหรี่หนึ่งมวน เหมือนจุดชนวนสู่ความตาย “
ฟังเพลงรณรงค์เลิกสูบบุหรี ที่ https://soundcloud.com/prdpc9/stphkyazbono
สปอร์ตสู้โรคสั้น Clip VDO เชิญชวนเลิกบุหรี่ที่ http://www.youtube.com/watch?v=NUD2GfhANWw&feature=share&list=UUjDz8iLfwnqvbZAKinmemhg
สารคดีสู้โรคสั้น Clip VDO บุหรี่กับยาเส้นที่ http://www.youtube.com/watch?v=Dq7mjxmaZPY&feature=share&list=PLA7D4264010BCE1B2
ข่าวนี้สนับสนุนยุทธศาสตร์ที่ 3 กรมควบคุมโรค : การสื่อสารสาธารณะและประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึงและได้ผล เพื่อป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ
รายละเอียดภาพข่าวนี้ทั้งหมดที่ http://www.facebook.com/media/set/?set=a.463708733718031.1073741898.162933320462242&type=1
จิดาภา รอดอยู่ / รายงาน / เผยแพร่
เชิดเกียรติ แกล้วกสิกิจ/ ตรวจทาน
โดย…กลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ
สำนักงานป้องควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก
กรมควบคุมโรค รู้ก่อน รู้ทัน ป้องกันได้
โทร 0-5521-4615 -7 ต่อ 333 หรือ 334 โทรสาร 0-5532-1238
Email : dpc9phs@yahoo.com
ดูข่าวสุขภาพใหม่ ๆ ตลอดเวลาได้ที่ http://dpc9.ddc.moph.go.th/crd
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น