วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สุดอึ้งอีก 10 ปีข้างหน้า คาดมีผู้เป็นเบาหวานทั่วโลก เพิ่มขึ้นมากกว่า 435 ล้านคน


นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า เบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่เป็นปัญหาสำคัญทางด้านสาธารณสุขของโลก ข้อมูลจากสมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ (international diabetes federation :IDF) ระบุมีผู้เป็นเบาหวานทั่วโลกแล้วกว่า 285 ล้านคน และประมาณการว่าปี พ.ศ.2573 หากไม่มีการดำเนินการในการป้องกันและควบคุมที่มีประสิทธิภาพ จะมีผู้เป็นเบาหวานทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 435 ล้านคน


สำหรับประเทศไทยสถานการณ์ผู้เป็นโรคเบาหวานในปัจจุบันคาดว่ามีมากถึง 3.4 ล้านคน ในจำนวนนี้มีประมาณ 2.33 ล้านคน ที่รู้ตนเองว่าเป็นโรคนี้ แต่มีผู้ที่เข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องแค่ 2.22 ล้านคน แต่มีเพียง 9.62 แสนคนเท่านั้น ที่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ และในภาวะวิกฤตมหาอุทกภัยที่เป็นอยู่ขณะนี้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดีซึ่งมีมากกว่า 2.5 ล้านคน ทั้งที่และไม่ได้อยู่ในระบบการดูแลรักษา จะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยรุนแรงมากขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่อ เท้า ไต ตา ระบบประสาท หัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง และมีโอกาสที่จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

ปีนี้นอกจากจะมีจำนวนผู้ป่วยเรื้อรังโรคเบาหวานสูงขึ้นแล้ว ผลกระทบจากภาวะอุทกภัยยังทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพได้ยาก และมีภาวะเสี่ยงอื่นๆตามมา เช่น การเกิดแผลที่เท้า และเกิดการติดเชื้อที่ง่ายขึ้นกว่าปกติ ที่สำคัญในผู้ป่วยที่ควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดี มีความเครียดรุนแรงเรื้อรัง และมีความผิดปกติของปัจจัยเสี่ยงอื่นๆได้แก่ ระดับความดันโลหิตสูงขึ้น ไขมัน-ผิดปกติ ยิ่งถ้าดื่มแอลกอฮอลส์หรือสูบบุหรี่ร่วมด้วยแล้ว จะยิ่งมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนและภาวะเฉียบพลันของหลอดเลือดเสื่อมที่ซ่อนตัวอยู่ ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะหัวใจล้ม สมองล้มได้ง่าย

องค์การอนามัยโลกและสหพันธ์เบาหวานนานาชาติ ได้ประเด็นการรณรงค์วันเบาหวานโลกตลอด 5 ปี ระหว่างปี 2552-2556 เน้นที่ “การให้ความรู้และการป้องกันโรคเบาหวาน” สําหรับประเทศไทยปี 2554 นี้ กระทรวงสาธารณสุข และสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ได้กําหนดคําขวัญ วันเบาหวานโลก คือ “รวมพลังลดเสี่ยงเลี่ยงเบาหวาน” แต่เพื่อให้สอดคล้องการเกิดวิกฤตอุทกภัยในประเทศและเพื่อให้ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานได้หัน มาสนใจ มีความรู้ และจัดการตนเองได้มากขึ้นเพื่อป้องกันควบคุมความรุนแรงของโรค จึงได้มีการจัดกิจกรรม ปรับรูปแบบการบริการ การเชื่อมโยงการบริการ ให้เอื้อต่อการเข้าถึงผู้เป็นโรคมากขึ้น โดยประเด็นที่ใช้รณรงค์ในปีนี้คือ “ร่วมใจ รู้เตรียม รู้ระวัง รู้สะอาด ลดภัยเบาหวาน”

ด้าน แพทย์หญิงฉายศรี สุพรศิลป์ชัย ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประเด็นการณรงค์วันเบาหวานโลกปีนี้เน้น 3 เรื่องที่ควรรู้ คือ “รู้เตรียม รู้ระวัง รู้สะอาด”

“รู้เตรียม” ได้แก่

1.ทบทวนว่าท่านเป็นโรคเบาหวานหรือไม่ ถ้าไม่แน่ใจหรือรู้ว่าเป็นโรคแต่ไม่เข้ารับการรักษา ถ้ามีอาการของโรคต้องเข้ารับการรักษาทันที

2.ถ้าท่านเป็นโรคควรเตรียมยาให้เพียงพออย่างน้อย 1-2 เดือน

3.ดูแลตนเองทั้งการกิน การออกกำลัง และการดูแลที่จำเป็น เช่น เท้า ควรเตรียมรองเท้าที่ใส่พอดีไว้เป็นต้น

4.ศึกษาข้อมูลของสัญญาณอันตรายเบื้องต้นต่ออาการแสดงของภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันหรือโรคแทรกซ้อนที่เกิดกระทันหัน

5.เตรียมการติดต่อสื่อสารและการเข้าถึงบริการที่จำเป็นเมื่อฉุกเฉิน ได้แก่ เตรียมบัตรแสดงตน เลขทะเบียนการบริการ และสำเนาสรุปการดูแลรักษา เบอร์โทรศัพท์ของสถานบริการทางการแพทย์ใกล้เคียง ศูนย์ให้คำปรึกษา ศูนย์ส่งต่อ-ฉุกเฉินทางการแพทย์

6.เตรียมหาสถานที่พักพิงใกล้สถานบริการถ้าท่านเป็นโรคที่มีความซับซ้อนและเสี่ยงสูงต่อ-การต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่ออพยพเมื่อจำเป็น และควรอพยพเมื่อได้รับการแจ้งว่าเป็นพื้นที่เฝ้าระวังจะเกิดอุทกภัย

“รู้ระวัง” ได้แก่

1.ในภาวะภัยพิบัติแม้ว่าจะเป็นระยะที่มีเรื่องมากมายต้องคิดต้องทำ แต่ อย่าลืม “สุขภาพ” ของท่าน

2.แม้ว่าท่านจะเป็นโรคเบาหวานที่ควบคุมได้ดีมาก่อนควรเริ่มต้นปฏิบัติตั้งแต่วันนี้

3.กินยาเบาหวานตามที่ได้ตกลงไว้กับทีมแพทย์ และทบทวนจำนวนยาให้เพียงพอถ้ามียาน้อยกว่า 5 วันควรติดต่อสถานบริการสุขภาพ

4.ตรวจเท้าของท่านทุกวัน ดูรอยแผล รอยจ้ำแดง ตุ่มพอง หรือบวม

5.พยายามกินอาหารตามมื้อสม่ำเสมอและเอื้อต่อสุขภาพ เช่น ผลไม้ ถั่ว ผัก และไม่กินอาหารที่มีไขมันมากเกิน รวมทั้ง ไม่ควรเติมเกลือ เครื่องปรุงรส น้ำตาล

6.ไม่ดื่มแอลกอฮอล์และไม่สูบบุหรี่ แต่ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน

7.บริหารการหายใจคลายเครียดและพยายามบริหารร่างกายหรือออกกำลังกายสม่ำเสมอ

8.ตรวจดูระดับน้ำตาลในเลือดเป็นระยะๆ และเมื่อมีอาการสงสัยของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือ สูงเกินไป

9.พกลูกอมน้ำตาล 4-5 ชิ้นไว้ประจำตัว

10.ขอปรึกษาหรือพบแพทย์หรือพยาบาลเพื่อช่วยเมื่อมีปัญหาการดูแลภาวะเบาหวาน ได้แก่ การขาดยา อาการสงสัยของการกำเริบของโรค

“รู้สะอาด” ได้แก่

1.รับประทานอาหารสุก สะอาด ปลอดภัย และไม่ค้างเกิน 2 ชั่วโมง

2.ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร

3.ดื่มน้ำที่สะอาดหรือน้ำต้ม

4.ล้างและทำความสะอาดเท้าและขาทุกครั้ง เช็ดให้แห้ง และโรยแป้งผง ถ้ามีแผล ให้รีบไปรักษาตั้งแต่ระยะต้น

5.ถ้าต้องเจาะเลือดตรวจระดับน้ำตาลหรือใช้เข็มฉีดยาต้องทำความสะอาดเข็มและระมัดระวังการใช้เข็มร่วม และทิ้งเข็มที่ใช้แล้วอย่างถูกต้อง

ข้อความหลัก " ร่วมใจ รู้เตรียม รู้ระวัง รู้สะอาด ลดภัยเบาหวาน ”

กรมควบคุมโรค ห่วงใย อยากเห็นคนไทยมีสุขภาพดี

ที่มา http://dpc9.ddc.moph.go.th/crd/news/tv/2554_11_14_dmday.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น