วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2555

สคร.9 พิษณุโลก ไอเดียบรรเจิด ออกผ้ายันต์ ผสานยามอุบากอง แคล้วคลาดภัย เตือนสติผู้เดินทางให้เจ็บตายกลายเป็นศูนย์



เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2555 เภสัชกรเชิดเกียรติ แกล้วกสิกิจ หัวหน้ากลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก กรมควบคุมโรค เผยว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี จะมีวันหยุดยาว ประชาชนมีการเดินทางกลับและท่องเที่ยวในต่างจังหวัด เป็นโอกาสที่ดีในการพบปะกับญาติพี่น้องในครอบครัว โดยส่วนใหญ่จะมีการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์รื่นเริงและมีการใช้เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์เพื่อให้เกิดความสนุกสนาน ซึ่งสุราหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์นั้นนอกจากทำให้มึนเมาแล้ว หากดื่มในปริมาณมากจะก่อให้เกิดผลกระทบต่างๆ ตามมาทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และการใช้ความรุนแรง เช่น อุบัติเหตุ การทะเลาะวิวาท ความรุนแรง ข่มขืน อาชญากรรมและโรคเรื้อรัง ฯลฯ


นอกจากนั้นสุรายังมีผลกระทบต่อสมองส่วนควบคุมสติปัญญา การตัดสินใจและควบคุมความฉับไวในการปฏิบัติการช่วงกะทันหัน การดื่มเหล้ามีผลต่อการขับขี่โดยตรง ทำให้การมองเห็นแคบลง การรับรู้ต่อความเคลื่อนไหวรอบตัวน้อยลง การสั่งการของสมองไปยังกล้ามเนื้อช้าลง ในเวลาคับขันจึงอาจแตะเบรกและหักหลบได้ช้ากว่าปกติ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เป็นผลให้ในแต่ละปีมีความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินจากสาเหตุเมาแล้วขับเป็นจำนวนมาก

โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ 7 วันอันตราย (วันที่ 11-17 เมษายน 2555 ) เป็นช่วงรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ หน่วยงานจึงได้ออก “ ผ้ายันต์ผสานยามอุบากองแคล้วคลาดภัย” โดยด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธชินราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพนับถือ มีคำอวยพรว่า “เดินทางปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง” ด้านหลังเป็นยามอุบากองที่มีใช้มาแต่โบราณ ใช้ดูฤกษ์งามยามดีประจำวันและเวลา พร้อมคำเตือนสำคัญว่า “ งดดื่มเหล้า สวมกันน็อค คาดเข็มขัดนิรภัย เดินทางจะปลอดภัย เจ็บและตายกลายเป็นศูนย์ “ มีสายคล้องด้านบน และยินดีสนับสนุนให้กับหน่วยงานที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางถนนของประชาชนในเขตภาคเหนือตอนล่าง 5 จังหวัด ( พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ ตาก สุโขทัย ) เพื่อแจกจ่ายกระตุ้นเตือนภัยให้กับผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกคนได้ระมัดระวัง และร่วมมือกันรณรงค์ให้ลดความสูญเสียจากอุบัติภัยทางถนนให้มากที่สุดหรือไม่เกิดขึ้นเลย

เภสัชกรเชิดเกียรติ กล่าวต่อว่า ที่เน้นย้ำเป็นพิเศษ คือ ก่อนขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ควรงดการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ เหล้าปั่น สุราพื้นเมือง ในส่วนของประชาชนทั่วไปควรให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยการไม่ดื่มแอลกอฮอล์ภายในวัด สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง สถานศึกษา หอพัก สวนสาธารณะ สถานบริการสาธารณสุข รวมทั้งสถานที่ราชการ และขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการทุกท่านจำหน่ายสุราได้เฉพาะเวลาที่กฎหมายกำหนด คือ เวลา 11.00 - 14.00 น.และ 17.00-24.00น. เท่านั้น และห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี และผู้ที่มึนเมาจนครองสติไม่ได้

ข้อความหลัก " เที่ยว สนุกสุขใจไร้แอลกอฮอล์ ฉลองสงกรานต์ปลอดภัย เจ็บและตายเป็นศูนย์ ”

กรมควบคุมโรค ห่วงใย อยากเห็นคนไทยมีสุขภาพดี

ที่มา http://dpc9.ddc.moph.go.th/crd/news/2555/04_11_alco.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น