วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557

สคร.9 แนะกลุ่มเสี่ยงไข้หวัดใหญ่ โรคเรื้อรัง คนอ้วน เด็กเล็ก คนชรา เข้ม 5 พฤติกรรมป้องกันโรค




เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2557 เภสัชกรเชิดเกียรติ แกล้วกสิกิจ หัวหน้ากลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก กรมควบคุมโรค เผยว่า ในแต่ละปีกระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าประเทศไทยมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 7-9 แสนราย ในจำนวนนี้มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม ต้องรับไว้โรงพยาบาลเกือบ 76,000 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 16 มีนาคม 2557 ทั่วประเทศไทยมีรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 18,290 ราย ในเขต 5 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง พบรายงานป่วย 1,465 ราย

ผู้ที่เสี่ยงป่วยรุนแรง ได้แก่หญิงมีครรภ์ เสี่ยงป่วยรุนแรงกว่าคนทั่วไป 4 เท่า ผู้มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคปอด หอบหืด หัวใจ ไต เบาหวาน โรคเลือด มะเร็ง เอดส์ ฯลฯ ผู้พิการทางสมอง คนอ้วนมาก (น้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป) เด็กเล็ก อายุน้อยกว่า 2 ปี ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป

โรคไข้หวัดใหญ่ เกิดจากเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย สามารถติดต่อได้ง่าย โดยเชื้อจะฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ เมื่อมีการไอ จามรดกัน การหายใจสูดลมหายใจเอาเชื้อที่อยู่ในฝอยละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วยถูกผู้ป่วยไอจามรด ในระยะ 1 ช่วงแขน การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือมือสัมผัสเชื้อไวรัสแล้วนำมาขยี้ตา จับต้องจมูก ปาก การจับต้องสิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อจากผู้ป่วย เช่น โทรศัพท์ แป้นคอมพิวเตอร์ ผ้าเช็ดมือ ลูกบิดประตู แล้วใช้มือมาแคะจมูก ขยี้ตา จับปาก

เชื้อโรคจะไปเจริญอยู่ในลำคอและเยื่อบุทางเดินหายใจของผู้ป่วย หลังจากนั้นผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้มากที่สุดในช่วงป่วย 3 วันแรก (มีโอกาสแพร่เชื้อได้มากสุด และอาจแพร่ได้นานถึง 7 วัน) ส่งผลให้ หลังได้รับเชื้อ 2-3 วัน (มักไม่เกิน 7 วัน) ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง เป็นเวลา 3 - 4 วัน ปวดศีรษะมาก หนาวสั่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ น้ำมูกไหล คัดจมูก ไอ จาม เจ็บคอ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย บางคนอาจมีอาเจียน ท้องเสียด้วย

หากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ผู้ที่ต้องรีบไปโรงพยาบาล คือ ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง, ไข้สูง ไม่ลดลงภายใน 2 วัน , ไอมาก เจ็บหน้าอก หายใจถี่ หอบเหนื่อย , ซึม อ่อนเพลียมาก เด็กร้องไห้งอแงมาก, กินอาหารไม่ได้ หรือกินน้อยมาก , อาเจียน ท้องร่วงมาก มีภาวะขาดน้ำ เช่น ผิวแห้ง ริมฝีปากแห้ง ตาโหล ปัสสาวะน้อย , ปลายมือปลายเท้ามีสีม่วงคล้

ประชาชนควรมีพฤติกรรมสุขอนามัย โดยการออกกำลังกาย การรับประทานเนื้อ ไข่ นม ผัก ผลไม้ เช่น ฝรั่ง ซึ่งอุดมด้วยวิตามินซี การพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ และการใช้ช้อนกลาง และ 5 พฤติกรรมป้องกันไข้หวัดใหญ่ ที่แนะนำ คือ

- ปิด..ปิดปากจมูกเมื่อป่วย ไอจาม ใช้กระดาษทิชชู สวมหน้ากากอนามัย หรือไอใส่ต้นแขนตนเอง
- ล้าง..ล้างมือบ่อย ๆ ก่อนรับประทานอาหาร หลังไอจาม สั่งน้ำมูก ดูแลผู้ป่วย ขับถ่าย จับต้องสัตว์ และล้างเช็ดทำความสะอาดสิ่งของ พื้นผิว ที่มีคนสัมผัสมาก
- เลี่ยง..เลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้มีอาการป่วย มีไข้ ไอ จาม เลี่ยงสถานที่คนมาอยู่รวมกันจำนวนมาก (โดยเฉพาะช่วงที่มีโรคระบาดมาก)
- หยุด..หยุดงาน หยุดเรียน หยุดกิจกรรมกับผู้อื่น เมื่อป่วย เพื่อให้หายป่วยเร็ว และไม่แพร่เชื้อให้คนอื่น
- ฉีด..ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงป่วยรุนแรง ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

เภสัชกรเชิดเกียรติ กล่าวแนะนำว่า ถ้าอาการป่วยไม่รุนแรง คือ ไข้ไม่สูง ไม่อ่อนเพลียมาก พอรับประทานอาหารได้ และนอนหลับพักผ่อนได้ ควรดูแลรักษาตนเองที่บ้าน คือ รับประทานยาลดไข้ เช่น พาราเซทามอล (ห้ามใช้ยาแอสไพริน) และยารักษาตามอาการ เช่น ยาละลายเสมหะ ยาลดน้ำมูก ตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร หากติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ต้องรับประทานทานยาปฏิชีวนะให้หมดตามที่แพทย์สั่ง เช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำสะอาดอุ่นเล็กน้อยเป็นระยะ เช็ดแขนขาย้อนเข้าหาลำตัว เช็ดบริเวณหน้าผาก ซอกรักแร้ ขาหนีบ ข้อพับแขนขา และใช้ผ้าห่มปิดหน้าอกไว้ เพื่อไม่ให้หนาวเย็นจนเสี่ยงเกิดปอดบวม หากผู้ป่วยมีอาการหนาวสั่น ต้องหยุดเช็ดตัวและห่มผ้าให้อบอุ่นทันที ดื่มน้ำสะอาดและน้ำผลไม้มาก ๆ งดดื่มน้ำเย็นจัด รับประทานอาหารอ่อน ๆ รสไม่จัด เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ไข่ ผัก และผลไม้ให้พอเพียงทำจิตใจให้สบาย นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ในห้องที่อากาศไม่เย็นเกินไป และอากาศถ่ายเทสะดวก อาการจะค่อย ๆ ทุเลา และหายป่วยภายใน 5 ถึง 7 วัน ห้ามออกกำลังกายหรือทำงานหนัก เพราะอาการอาจทรุดลงได้

" ล้างมือ ปิดปาก จมูกเมื่อไอ จาม ฉีดวัคซีนเร็วไว ป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ “

VDO Clip รณรงค์ไข้หวัดใหญ่ ที่https://www.youtube.com/watch?v=j2c820yO68k

เพลงรณรงค์ไข้หวัดใหญ่ https://soundcloud.com/prdpc9/p3ykk5h3ksrh



 
ข่าวนี้สนับสนุนยุทธศาสตร์ที่ 3 กรมควบคุมโรค : การสื่อสารสาธารณะและประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึงและได้ผล เพื่อป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ

รายละเอียดภาพข่าวนี้ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.608032319285671.1073742119.162933320462242&type=1


           


รหัสข่าว 099220357.3
จิดาภา รอดอยู่ / รายงาน / เผยแพร่
เชิดเกียรติ แกล้วกสิกิจ/ ตรวจทาน
โดย…กลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ
สำนักงานป้องควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก
กรมควบคุมโรค รู้ก่อน รู้ทัน ป้องกันได้
โทร 0-5521-4615 -7 ต่อ 333 หรือ 334
โทรสาร 0-5532-1238 Email : dpc9phs@yahoo.com
ดูข่าวสุขภาพใหม่ ๆ ที่ http://dpc9.ddc.moph.go.th/crd

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น