เภสัชกรเชิดเกียรติ แกล้วกสิกิจ หัวหน้ากลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก กรมควบคุมโรค เผยว่า สถานการณ์ระดับแม่น้ำน่าน ณ ที่ 16 กันยายน 2554 อำเภอเมืองพิษณุโลก สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 10.90 เมตร กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก ได้กัดเซาะถนนริมตลิ่ง บริเวณหน่วยพัฒนาทหารเคลื่อนที่ที่ 34 หรือ โรงงานทอผ้าเก่า ตำบลหัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ระยะทางยาว 200 เมตร ส่งผลให้พนังกั้นน้ำพังทลาย น้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วม ตำบลหัวรออย่างหนัก บริเวณดังกล่าวเป็นสถานที่ราชการหลายแห่ง เช่น ศูนย์ราชการจังหวัดพิษณุโลกหลายแห่ง อาทิ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ สถานพินิจ ไหลทะลักเข้าไปในโรงเรียนวัดโพธิญาณ ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน ตำรวจท่องเที่ยว โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคเหนือ และศูนย์ควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลงที่ 9.1 พิษณุโลก ในสังกัดสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก กรมควบคุมโรค ช่วงเวลา 10.00 - 14.00 น.ระดับน้ำภายในศูนย์ควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลงที่ 9.1 พิษณุโลก สูงประมาณ 20 ซม. และถนนด้านหน้าศูนย์ราชการบริเวณตำบลหัวรอเพิ่มท่วมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ระดับน้ำสูงถึง 50-80 เซนติเมตร รถเล็กผ่านไม่ได้ เป็นระยะทางยาวกว่า 800 เมตร ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างทุลักทุเล
เภสัชกรเชิดเกียรติ กล่าวต่อว่า ผู้ประสพภัยอาจมีอุบัติเหตุต่างๆ จนทำให้เกิดบาดแผลตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย การไม่ดูแลรักษาบาดแผลให้ถูกต้อง อาจทำให้มีการติดเชื้อเข้าสู่ร่างกายและเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ประชาชนควรใส่รองเท้าบู๊ทกันน้ำ หากหารองเท้าบู๊ทไม่ได้ให้ใช้ถุงพลาสติกขนาดใหญ่มาประยุกติ์ใช้ทำรองเท้ากันน้ำชั่วคราว โดยสวมถุงพลาสติกทั้ง 2 เท้าให้สูงเหนือเข่าหรือเหนือระดับน้ำท่วม จากนั้นสวมถุงเท้าทับถุงพลาสติกอีกชั้นหนึ่ง พร้อมกับไล่ลมออกจากถุงพลาสติกเพื่อให้ถุงแนบกับเท้าหรือขามากที่สุด แล้วใช้เชือกมัดกระชับปิดปากถุงเหนือระดับน้ำเพื่อป้องกันน้ำเข้า และขั้นสุดท้ายสวมรองเท้าหุ้มส้น แต่ก็ไม่ควรใส่แบบนี้ตลอดทั้งวัน เมื่อกลับเข้าบ้านที่สูงน้ำท่วมไม่ถึง ควรล้างเท้าให้สะอาด ฟอกสบู่ให้ทั่ว และเช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
ข้อความหลัก " ลุยน้ำ ย่ำโคลน เกิดแผล อาจเสี่ยงติดเชื้อโรครุนแรง ”
กรมควบคุมโรค ห่วงใย อยากเห็นคนไทยมีสุขภาพดี
ที่มา http://dpc9.ddc.moph.go.th/crd/news/tv/2554_09_16_vbd_flood.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น