วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เตือนอันตรายผู้ประสบอุทกภัยเพิ่มความระวังป้องกันการเสียชีวิตจากการจมน้ำ



เภสัชกรเชิดเกียรติ แกล้วกสิกิจ หัวหน้ากลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก กล่าวว่า จากสถานการณ์ภาวะฉุกเฉินอุทกภัยในภาคเหนือตอนล่างที่ผ่านมา พบรายงานผู้ป่วยจากโรคและภัยน้ำท่วมส่วนใหญ่เป็นโรคน้ำกัดเท้า รองลงมาคือไข้หวัด และผื่นคันที่ผิวหนัง ที่น่าเป็นห่วงคือมีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำจำนวน 5 ราย และจากข้อมูลย้อนหลังที่ผ่านมาพบว่าเด็กไทยอายุต่ำกว่า15 ปีเสียชีวิตจากการตกน้ำจมน้ำปีละประมาณ 1,420 คนหรือเฉลี่ยวันละ 4 คน การจมน้ำเสียชีวิตมักมีสาเหตุจากการพลัดตกลื่น เช่น พื้นไม้ที่ผุพัง หรือมีตระใคร่ขึ้น ทางเดินบนสะพานที่แคบและไม่แข็งแรง และที่สำคัญคือการดื่มเหล้าจนมึนเมา


กรมควบคุมโรค มีความเป็นห่วงในสุขภาพอนามัยของผู้ประสบภัยน้ำท่วม จึงขอเตือนภัยประชาชน และผู้ปกครองที่มีเด็กเล็กหรือลูกหลาน ให้ระมัดระวังคำป้องกันอันตราย ระมัดระวังการเข้าใกล้แหล่งน้ำ หากมีเด็กในความดูแลให้ความดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ให้คลาดสายตา ป้องกันการพลัดตกจมน้ำซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยแนะนำประชาชนระวังป้องกันจากการจมน้ำดังนี้

1) ประชาชนที่ประสบอุทกภัย หรือประกอบอาชีพทางน้ำ เช่น หาปลา ต้องเข้าพื้นที่น้ำท่วม หรือต้องทำกิจกรรมทางน้ำ ขอให้เตรียมอุปกรณ์ป้องกันการจมน้ำ เช่น ถังแกลลอนเปล่าปิดฝา ขวดน้ำพลาสติกเปล่าปิดฝา ลูกมะพร้าว ห่วงยาง เสื้อชูชีพ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่ช่วยให้ลอยตัวในน้ำได้ เพื่อป้องกันการจมน้ำ และไม่ควรออกประกอบอาชีพทางน้ำตามลำพัง

2) ไม่ควรลงเล่นน้ำในช่วงน้ำท่วมและน้ำเชี่ยวไหลหลาก และผู้ปกครองต้องดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด

3) ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หรือไม่สามารถดูแลตนเองได้ เช่น โรคลมชัก เครียด ความดันต่ำ ต้องมีผู้ดูแล และไม่ควรปล่อยให้อยู่ตามลำพัง

เภสัชกรเชิดเกียรติ กล่าวต่อว่า หากพบคนจมน้ำควรมีวิธีช่วยที่ถูกต้อง คือ ตั้งสติอย่าวู่วาม ไม่ควรลงไปในน้ำเพื่อช่วยคนจมน้ำทันทีทันใด ควรหาอุปกรณ์ใกล้ตัว เช่น ไม้ เชือก หรืออุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ช่วยเหลือ และคนจมน้ำลอยตัวได้ เพื่อโยนหรือยื่นให้คนจมน้ำแล้วลากเข้าฝั่งโดยที่คนช่วยเหลืออยู่บนฝั่ง หากจำเป็นต้องจะลงน้ำไปช่วยเหลือ ต้องมั่นใจว่าว่ายน้ำเป็น และควรต้องมีอุปกรณ์ช่วยเหลือนำติดตัวไปด้วยเพื่อยืนให้คนจมน้ำจับแล้วลากเข้าฝั่ง ที่สำคัญไม่ควรสัมผัสคนจมน้ำโดยตรงเพราะอาจจะถูกกอดรัดและจมน้ำไปพร้อมกัน และกรณีช่วยเหลือผู้จมน้ำด้วยตนเองไม่ได้ หรือไม่มีอุปกรณ์ ให้ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น

และเมื่อช่วยผู้จมน้ำได้แล้ว ห้ามจับคนจมน้ำอุ้มพาดบ่าแล้วกระโดดหรือวิ่งไปมาเพื่อให้น้ำออก เนื่องจากเป็นวิธีที่ผิด เพราะน้ำที่ออกมาจะเป็นน้ำจากกระเพาะไม่ใช่จากปอด และจะทำให้ผู้จมน้ำขาดอากาศหายใจนานยิ่งขึ้น อาจทำให้เสียชีวิตได้ วิธีที่ถูกต้องคือควรวางคนจมน้ำให้นอนราบ ตะแคงหน้าเอาน้ำออกจากปาก เปิดทางเดินหายใจให้โล่ง และช่วยหายใจ ด้วยการเป่าลมเข้าออกตามจังหวะหายใจเข้าออก แล้วรีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่อยู่ใกล้บ้าน พร้อมโทรแจ้ง 1669 โดยเร็วที่สุด

ข้อความหลัก " น้ำดื่ม อาหารสุก ร่างกายสะอาด ระวังสัตว์พิษ สุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม

ป้องกันโรคและภัยที่มาจากน้ำท่วม ”

กรมควบคุมโรค ห่วงใย อยากเห็นคนไทยมีสุขภาพดี

ที่มา http://dpc9.ddc.moph.go.th/crd/news/tv/2554_08_28_drowing.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น