วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2554

กรมควบคุมโรค เตรียมทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว 58 ที่ลงพื้นที่ศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกแห่ง


กรมควบคุมโรค สั่งการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่น้ำท่วม ผ่านระบบ VDO Conferrence ให้เฝ้าระวังโรคระบาดในศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยเน้น 7 โรคหลักที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ คือ โรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม โรคมือเท้าปาก โรคอุจจาระร่วง โรคตาแดง โรคเลปโตสไปโรซิสหรือโรคฉี่หนู และโรคไข้เลือดออก พร้อมเตรียมทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว(SRRT) 58 ทีม ลงพื้นที่ศูนย์พักพิงทุกแห่ง


เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวภายหลังการประชุมวอร์รูมกรมควบคุมโรค เร่งรัดแก้ไขปัญหาและป้องกันภัยจากโรคติดต่อในพื้นที่ประสบอุทกภัย ผ่านระบบวีดีโอ คอนเฟอร์เรน(VDO Conferrence) หน่วยงานทั่วปะเทศ ว่า ได้สั่งการไปยังสำนักงานป้องกันควบคุมโรค(สคร.) ในพื้นที่น้ำท่วม ได้แก่ สคร.1 กรุงเทพฯ สคร.2 สระบุรี สคร.8 นครสวรรค์ และ สคร.9 พิษณุโลก ที่รับผิดชอบพื้นที่ประสบภัยในภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง ให้เฝ้าระวังโรคระบาดในศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยเน้น 7 โรคหลักที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ คือ โรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม โรคมือเท้าปาก โรคอุจจาระร่วง โรคตาแดง โรคเลปโตสไปโรซิสหรือโรคฉี่หนู และโรคไข้เลือดออก โดยมอบหมายให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคจัดทำข้อมูลพื้นที่มีการอพยพของประชาชนและจำนวนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อการเฝ้าระวังป้องกันโรคระบาด รวมทั้งดำเนินการสนับสนุนการเฝ้าระวังโรคและดูแลในเรื่องอาหาร น้ำดื่มน้ำใช้ สุขาภิบาลและการป้องกันแมลงพาหะนำโรค

นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคได้เตรียมจัดตั้งทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว(SRRT) จำนวน 58 ทีม จากส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ลงพื้นที่ตามศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกแห่ง เนื่องจากมีประชาชนมาอยู่รวมกันจำนวนมาก การสุขาภิบาลที่ไม่ดี อาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ ได้ง่าย ส่วนการส่งอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ช่วยเหลือนั้น กรมควบคุมโรค ได้เตรียมจัดส่งเพิ่มเติมไปยังพื้นที่ประสบภัยแล้ว เช่น แอลกอฮอล์เจลล้างมือ 15,000 หลอด รองเท้าบู๊ต 6,000 คู่ ยาทากันยุง 20,000 ซอง และถุงมือยาง เป็นต้น และให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรค สำรวจความต้องการในพื้นที่เพื่อจัดหาสิ่งของจำเป็นเพื่อการป้องกันควบคุมโรคตามความต้องการของพื้นที่นั้นๆ จัดส่งให้โดยเร็ว ต่อไป

นายแพทย์พรเทพ กล่าวต่อไปว่า สำหรับปัญหาการจมน้ำโดยเฉพาะในเด็ก ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กลงเล่นน้ำแม้น้ำจะตื้น ผู้ปกครองควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด และเตรียมเสื้อชูชีพหรืออุปกรณ์ชูชีพให้พร้อม ส่วนในกลุ่มผู้ใหญ่ ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมทางน้ำ หากต้องออกหาปลาต้องเพิ่มความระมัดระวัง และมีอุปกรณ์ชูชีพติดตัวหรือไว้ในเรือเสมอ ไม่ควรขับรถฝ่ากระแสน้ำไหลเชี่ยวหรือขณะฝนตกหนัก ไม่ควรดื่มของมึนเมาทุกชนิด หากประชาชนมีข้อสงสัยติดต่อได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลฮ็อตไลน์ กระทรวงสาธารณสุข โทรศัพท์ 1422 และศูนย์ปฏิบัติการ กรมควบคุมโรค โทรศัพท์ 0 2590 3333



ข้อความหลัก " น้ำดื่ม อาหารสุก ร่างกายสะอาด ระวังสัตว์พิษ

สุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ป้องกันโรคและภัยที่มาจากน้ำท่วม ”

กรมควบคุมโรค ห่วงใย อยากเห็นคนไทยมีสุขภาพดี

ที่มา http://dpc9.ddc.moph.go.th/crd/news/print/2554_10_08_pher.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น