วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

ราชทัณฑ์เมืองสองแคว ขานรับนโยบายเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพในเรือนจำ ลงนามข้อตกลงกับภาคเครือข่ายสุขภาพ



นายนริศ ปิยพฤทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธี บันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือในการดำเนินงานโครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อผู้ต้องขังเรือนจำระหว่างกรมราชทัณฑ์ กับกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2554 ณ ห้องประชุมบุณยวงศ์วิโรจน์ ชั้น 5 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก การลงนามครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ร่วมกันที่จะประสานความร่วมมือ ในการพัฒนาการดำเนินงานด้านการเข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อผู้ต้องขังเรือนจำกลางพิษณุโลก เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ทัณฑสถานหญิงพิษณุโลก ในการดูแลสุขภาพอนามัยผู้ต้องขังให้ได้รับสิทธิเท่าเทียมกับประชาชนทั่วไป ให้มีสุขภาพกายและใจที่ดี และได้รับสิทธิประโยชน์ในการดูแลสุขภาพปฐมภูมิ

นายเรืองศักดิ์ สุวารี ผู้บัญชาเรือนจำกลางพิษณุโลก กรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ความสำคัญและความจำเป็นที่ต้องเฝ้าระวังป้องกัน ควบคุมโรค การเกิดแพร่กระจายโรคในเรือนจำ เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องขังที่ป่วยเป็นโรคเมื่อมาอยู่ในเรือนจำ สามารถแพร่กระจายโรคให้แก่ผู้ต้องขังอื่นได้ และในขณะเดียวกันผู้ต้องขังที่ป่วยในเรือนจำ เมื่อพ้นโทษก็สามารถนำโรคไปแพร่ต่อให้ประชาชนที่อยู่นอกเรือนจำได้ และเหตุส่งเสริมประการสำคัญที่ก่อให้เกิดโรค คือ การอยู่กันอย่างหนาแน่น ซึ่งเป็นปัจจัยเอื้อต่อการแพร่กระจายโรคได้อย่างดี ซึ่งในการลงนามข้อตกลงกับภาคีเครือข่าย ทำให้ผู้ต้องขังได้รับการบริการในการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพ และทำให้ผู้ต้องขังมีช่องทางในการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง

นายกิตติ พุฒิกานนท์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก กรมควบคุมโรค กล่าวว่า กลุ่มผู้ต้องขังเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคเท่ากับประชาชนทั่วไป โรคติดต่อที่เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ ได้แก่ โรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ วัณโรค อหิวาตกโรค อาหารเป็นพิษ โรคติดต่อทางเดินหายใจ โรคผิวหน้ง รวมทั้งโรคไม่ติดต่อ เช่น เบาหวาน โรคความดันโลหิต โรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากสิ่งแวดล้อม และพฤติกรรม ดังนั้น การเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ รวมทั้งควบคุมการระบาดของโรค จึงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการส่งเสริมคุณภาพชีวิต เพื่อลดภาระใช้จ่ายและงบประมาณในการรักษาโรค และฟื้นฟูสภาพความเจ็บป่วย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะให้ได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย

นายแพทย์ประเสริฐ ขันเงิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า การร่วมพัฒนาระบบการดูแลรักษา และการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างเรือนจำ และโรงพยาบาล เพื่อเปิดช่องทาง แก้ไขช่องว่าง ให้ผู้ต้องขังเข้าถึงบริการที่สะดวกรวดเร็วขึ้น และลดภาระในการรักษาสามารถลดค่าใช้จ่ายในด้านความเจ็บป่วย และลดอัตราภาวะแทรกซ้อนของโรคได้ ลดช่องว่างในระบบการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุม และดูแลรักษา โรคและภัยสุขภาพในเรือนจำ หากไม่ได้รับบริการเชิงรุกหรือช่องทางพิเศษจากโรงพยาบาล ผู้ต้องขังจะไม่สามารถเข้าถึงบริการควบคุมโรคและการดูแลสุขภาพที่ทั่วถึง อาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพผู้ต้องขัง และเกิดปัญหาแพร่ระบาด อันเป็นอุปสรรคในการควบคุมและป้องกันโรคในเรือนจำอย่างมาก และลงนามครั้งนี้จะส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืนของระบบการเฝ้าระวังป้องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพในเรือนจำ

ข้อความหลัก " ป้องกันล่วงหน้าก่อนเสี่ยง ควบคุมฉับไวก่อนระบาด ”

กรมควบคุมโรค ห่วงใย อยากเห็นคนไทยมีสุขภาพดี

ที่มา http://dpc9.ddc.moph.go.th/crd/news/print/2554_08_31_mou.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น