วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ปลุกกระแสนิสัย เก็บให้เกลี้ยง ทำลายแหล่งเพาะพันธ์ยุงลายป้องกันไข้เลือดออกให้ลูกหลาน

           เภสัชกรเชิดเกียรติ  แกล้วกสิกิจ หัวหน้ากลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก เผยว่า โรคไข้เลือดออกเป็นโรคติดต่อที่ปัจจุบันมีแนวโน้มระบาดมากขึ้น  บางปีมีผู้ป่วยมากกว่า 1 แสนคนแต่ปีที่น้อยก็มีผู้ป่วยเป็นหลักหลายหมื่นคน และมีผู้เสียชีวิตบางปีเป็นหลักร้อยคน ณ เดือนมิถุนายน 2554 ข้อมูลจากสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง  กรมควบคุมโรค รายงานว่าในระดับประเทศไทยมีผู้ป่วยไข้เลือดออกระบาดไปทั่วทุกภาคของประเทศไทยในปี 2554 นี้พบผู้ป่วยไปแล้วประมาณ 22,000 ราย เสียชีวิต 13 ราย
 ส่วนในเขตภาคเหนือตอนล่าง 5 จังหวัด กลุ่มระบาดวิทยาและข่าวกรอง สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก รายงานว่ามีผู้ป่วยไข้เลือดออกสะสมรวม 2,020 ราย  และเสียชีวิตไปแล้ว 2 ราย  กลุ่มอายุที่พบสูงสุด คือกลุ่มอายุ 10 - 14 ปี รองลงมา คือ ช่วงอายุ 5 - 9  ปี และ 15 -  24  ปี ตามลำดับ
           โรคไข้เลือดออก มียุงลายเป็นพาหะ ยังไม่มีวัคซีนหรือยารักษาโดยเฉพาะ  อาการป่วยคือ จะมีไข้สูง (ไข้สูงตลอดวันทั้งวัน ) ประมาณ  2 – 7  วัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว  ส่วนใหญ่มีอาหารหน้าแดง อาจมีจุดแดง เล็ก ๆ ตามลำตัว แขน ขา  มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และเบื่ออาหาร  ต่อมาไข้จะเริ่มลง ในระยะนี้ต้องระวังเป็นพิเศษเพราะ อาจเกิดอาการรุนแรง โดยผู้ป่วยจะกระสับกระส่าย มือเท้าเย็น หรือมีเลือดออกผิดปกติ เช่น ถ่ายดำ หรือไอปนเลือด  อาจมีภาวะช็อค และเสียชีวิตได้   หากตนเอง บุตรหลาน หรือคนในครอบครัวมีอาการดังกล่าวให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวลดไข้ ใช้ยาลดไข้พาราเซตามอล ห้ามใช้ยาแอสไพรินเพราะจำทำให้เลือดออกง่ายขึ้น ให้ดื่มน้ำผลไม้ หรือน้ำตาลเกลือแร่ บ่อย ๆ   และควรรีบไปพบแพทย์ทันทีให้เร็วที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงการเสียชีวิต           
      เภสัชกรเชิดเกียรติ กล่าวต่อว่าแม้แต่ขยะที่มีน้ำขังอยู่น้อยนิดก็สามารถเป็นแหล่งเพาะพันธ์ของยุงลายได้ คำแนะนำ
การป้องกันโรคที่ดีที่สุด คือ การป้องกันตั้งแต่ต้นเหตุ โดยอย่าให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายบริเวณบ้านและชุมชน  จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกคนมาระดมร่วมมือกันดำเนินมาตรการทั้ง 3 คือ เร่งป้องกันและควบคุมโรคในโรงเรียน โรงเรือน (ที่อยู่อาศัยรวมทั้งวัด) และโรงพยาบาล  สำรวจตรวจตราสถานที่เหล่านี้โดยรอบ แล้วสร้างค่านิยมสังคมร่วมกันทางพฤติกรรมป้องกันโรคไข้เลือดออก ด้วยมาตรการ 5 ได้แก่ 1) ปิดฝาภาชนะขังน้ำทุกชนิด 2) เปลี่ยนน้ำหรือคว่ำภาชนะทุกวันหยุดของสัปดาห์ 3) ปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะ 4) ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมเพื่อไม่ให้เป็นที่เพาะพันธุ์ของยุง 5) ปฏิบัติเป็นประจำต่อเนื่องจนเป็นนิสัย  นอกจากนั้นระวังอย่าให้ยุงกัดในตอนกลางวัน โดยการนอนกางมุ้ง ทายากันยุง  ฯลฯ
          ขอให้ประชาชนร่วมมือกันกำจัดและป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออก ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายอย่างต่อเนื่อง อย่ายอมให้ยุงเกิดมาได้  ผนึกกำลังร่วมกันทำทุกคน  ทุกบ้าน  ทุกชุมชน ทุกหมู่บ้าน  ทุกตำบล  ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด ทำต่อเนื่องจนเป็นนิสัย เก็บให้เกลี้ยง ไม่เลี้ยงยุงลาย ทำลายแหล่งเพาะพันธ์ ป้องกันไข้เลือกออก เริ่มต้นแต่วันนี้ก็จะช่วยให้ลดผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกในลูกหลานและญาติมิตรของพวกเราทุกคนลงได้

ข้อความหลัก “เก็บให้เกลี้ยง ไม่เลี้ยงยุงลาย ทำลายแหล่งเพาะพันธ์ ป้องกันไข้เลือดออก”
กรมควบคุมโรค  ห่วงใย  อยากเห็นคนไทยมีสุขภาพดี
สุทธิพร ถิ่นจันทร์ / ข่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น